Skip to content

RESTful Web API

RESTful Web API (Application Programming Interface) คือรูปแบบหนึ่งของ API ที่ใช้สถาปัตยกรรม REST (Representational State Transfer) สำหรับการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ในเครือข่าย ซึ่ง RESTful Web API เกี่ยวข้องกับ Backend อย่างมาก เนื่องจาก Backend คือส่วนที่ทำหน้าที่เป็นเซิร์ฟเวอร์ที่ให้บริการข้อมูลและการประมวลผลต่างๆ โดย RESTful Web API เป็นวิธีการที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในการออกแบบและพัฒนา Backend เพื่อให้สามารถสื่อสารกับไคลเอ็นต์ (Client) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีความสัมพันธ์กันดังนี้:

มีบทความที่สรุปดีมากๆๆๆอยากมาแนะนำครับผม

หลักเกณฑ์และแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับการออกแบบ RESTful API

การทำงานของ RESTful Web API ใน Backend

  1. จัดการทรัพยากร (Resources Management): Backend จะเก็บข้อมูลในฐานข้อมูลหรือที่เก็บข้อมูลอื่นๆ โดย RESTful Web API จะเป็นตัวกลางในการรับคำขอจากไคลเอ็นต์และจัดการกับทรัพยากรเหล่านั้น เช่น การเพิ่มข้อมูลใหม่ การอัปเดตข้อมูล การลบข้อมูล และการดึงข้อมูลออกมา
  2. การรับและตอบสนองคำขอ (Request and Response Handling): เมื่อไคลเอ็นต์ส่งคำขอ HTTP มายัง Backend ผ่าน RESTful API, Backend จะทำการประมวลผลคำขอนั้นและส่งการตอบสนอง (response) กลับไปยังไคลเอ็นต์ในรูปแบบ JSON หรือ XML โดยขึ้นอยู่กับการตั้งค่าที่กำหนดไว้
  3. Business Logic: Backend จะรวมตรรกะธุรกิจต่างๆ เช่น การคำนวณ การตรวจสอบเงื่อนไขกับระบบภายนอก ฯลฯ ไว้ใน RESTful API เพื่อให้แน่ใจว่าการดำเนินการกับทรัพยากรเป็นไปตามกฎเกณฑ์และข้อกำหนดของแอปพลิเคชัน
  4. การรักษาความปลอดภัย (Security): RESTful API ใน Backend จะต้องมีการจัดการความปลอดภัย เช่น การยืนยันตัวตน (Authentication) การอนุญาต (Authorization) การเข้ารหัสข้อมูล (Data Encryption) และการป้องกันการโจมตีต่างๆ เช่น SQL Injection, XSS, CSRF เป็นต้น
  5. การสเกลระบบ (Scalability): Backend ที่ใช้ RESTful API สามารถออกแบบให้รองรับการสเกลแนวนอน (Horizontal Scaling) ได้ง่าย โดยการเพิ่มจำนวนเซิร์ฟเวอร์ที่ให้บริการ API มากขึ้นเพื่อรองรับจำนวนคำขอที่เพิ่มขึ้น

ตัวอย่าง RESTful Web API

สมมติว่าคุณมีระบบจัดการหนังสือ (Book Management System) โดยมี API ที่ใช้จัดการหนังสือดังนี้:

  • GET /books: รับรายการหนังสือทั้งหมด
  • GET /books/{id}: รับรายละเอียดหนังสือเฉพาะโดย ID
  • POST /books: เพิ่มหนังสือใหม่
  • PUT /books/{id}: อัปเดตข้อมูลหนังสือเฉพาะโดย ID
  • DELETE /books/{id}: ลบหนังสือเฉพาะโดย ID

ตัวอย่างการเรียกใช้ API:

  • การขอรายการหนังสือทั้งหมด: GET /books
  • การขอรายละเอียดหนังสือ ID 1: GET /books/1
  • การเพิ่มหนังสือใหม่: POST /books พร้อมข้อมูลหนังสือในบอดี้ของคำขอ
  • การอัปเดตหนังสือ ID 1: PUT /books/1 พร้อมข้อมูลที่ต้องการอัปเดตในบอดี้ของคำขอ
  • การลบหนังสือ ID 1: DELETE /books/1