Skip to content

Network Administrator

คือผู้เชี่ยวชาญที่มีหน้าที่ดูแล, บำรุงรักษา, และบริหารจัดการเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขององค์กรให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและมั่นคง หน้าที่หลักของ Network Administrator รวมถึงการติดตั้ง, การกำหนดค่า, การตรวจสอบ, และการแก้ไขปัญหาเครือข่ายคอมพิวเตอร์

หน้าที่ของ Network Administrator

  1. การติดตั้งและการกำหนดค่าเครือข่าย (Network Installation and Configuration):

    • ติดตั้งและกำหนดค่าอุปกรณ์เครือข่าย เช่น Routers, Switches, Firewalls, และ Access Points
    • กำหนดค่าเครือข่ายไร้สายและเครือข่ายแบบมีสาย รวมถึงการตั้งค่า VPN และ VLAN
  2. การบำรุงรักษาและการตรวจสอบเครือข่าย (Maintenance and Monitoring):

    • ตรวจสอบสถานะและประสิทธิภาพของเครือข่ายเพื่อให้มั่นใจว่าเครือข่ายทำงานได้อย่างราบรื่น
    • ดำเนินการบำรุงรักษาเครือข่ายเป็นประจำและอัปเดตเฟิร์มแวร์ของอุปกรณ์เครือข่าย
  3. การแก้ไขปัญหาเครือข่าย (Troubleshooting):

    • วิเคราะห์และแก้ไขปัญหาเครือข่ายที่เกิดขึ้น เช่น ปัญหาการเชื่อมต่อ, ความช้าของเครือข่าย, และปัญหาการรักษาความปลอดภัย
    • ใช้เครื่องมือการตรวจสอบและวิเคราะห์เครือข่ายเพื่อระบุและแก้ไขปัญหา
  4. การรักษาความปลอดภัยของเครือข่าย (Network Security):

    • กำหนดค่าและดูแลมาตรการความปลอดภัยเครือข่าย เช่น Firewalls, Intrusion Detection Systems (IDS), และการเข้ารหัสข้อมูล
    • ตรวจสอบและป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์และการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต
  5. การบริหารจัดการผู้ใช้และสิทธิ์การเข้าถึง (User Management and Access Control):

    • จัดการบัญชีผู้ใช้และการกำหนดสิทธิ์การเข้าถึงเครือข่ายและทรัพยากรเครือข่าย
    • ให้การสนับสนุนทางเทคนิคแก่ผู้ใช้เกี่ยวกับการเชื่อมต่อและการใช้งานเครือข่าย
  6. การวางแผนและการขยายตัวของเครือข่าย (Network Planning and Expansion):

    • วางแผนและดำเนินการขยายเครือข่ายเพื่อรองรับความต้องการทางธุรกิจที่เพิ่มขึ้น
    • ประเมินและเลือกอุปกรณ์เครือข่ายที่เหมาะสมกับการใช้งานในองค์กร
  7. การจัดทำเอกสารและการรายงาน (Documentation and Reporting):

    • จัดทำเอกสารเกี่ยวกับการกำหนดค่าเครือข่าย, แผนผังเครือข่าย, และการแก้ไขปัญหา
    • รายงานสถานะและประสิทธิภาพของเครือข่ายให้กับทีมบริหารและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย

ความสามารถที่ต้องมี

  1. ความรู้เกี่ยวกับเครือข่าย (Networking Knowledge):

    • ความเข้าใจเกี่ยวกับโปรโตคอลเครือข่าย เช่น TCP/IP, DNS, DHCP, HTTP/HTTPS
    • ทักษะในการกำหนดค่าและจัดการอุปกรณ์เครือข่าย เช่น Routers, Switches, Firewalls
  2. ทักษะการแก้ไขปัญหา (Troubleshooting Skills):

    • ความสามารถในการวิเคราะห์และแก้ไขปัญหาเครือข่ายที่ซับซ้อน
    • การใช้เครื่องมือการตรวจสอบและวิเคราะห์เครือข่าย เช่น Wireshark, PRTG Network Monitor
  3. ทักษะการรักษาความปลอดภัยของเครือข่าย (Network Security Skills):

    • ความรู้เกี่ยวกับมาตรการความปลอดภัยเครือข่ายและเทคนิคการป้องกันภัยคุกคาม
    • ทักษะในการกำหนดค่าและจัดการอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยเครือข่าย เช่น Firewalls, IDS/IPS
  4. ทักษะการเขียนโปรแกรมและการเขียนสคริปต์ (Programming and Scripting Skills):

    • ความรู้และทักษะในการเขียนโปรแกรมด้วยภาษาต่างๆ เช่น Python, Bash, PowerShell
    • การเขียนสคริปต์เพื่อใช้ในการจัดการและการบำรุงรักษาเครือข่าย
  5. ทักษะการสื่อสาร (Communication Skills):

    • ความสามารถในการสื่อสารกับผู้ใช้และทีมงานอื่นๆ เพื่อให้การสนับสนุนและคำแนะนำทางเทคนิค
    • ทักษะในการเขียนรายงานและการนำเสนอข้อมูล

การเตรียมตัวและเส้นทางการเติบโต

  1. การศึกษา (Education):

    • ปริญญาตรีในสาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์, วิศวกรรมคอมพิวเตอร์, ระบบสารสนเทศ, หรือสาขาที่เกี่ยวข้อง
    • การเรียนรู้ด้วยตัวเองหรือการเข้าคอร์สออนไลน์ที่เน้นการจัดการเครือข่าย
  2. การฝึกงานและประสบการณ์การทำงาน (Internships and Work Experience):

    • หาประสบการณ์การทำงานหรือฝึกงานในสายงานที่เกี่ยวข้องกับการจัดการเครือข่าย
    • สร้างโปรเจ็กต์ส่วนตัวหรือพอร์ตโฟลิโอเพื่อแสดงความสามารถและผลงานของตนเอง
  3. การเรียนรู้ตลอดชีวิต (Continuous Learning):

    • ติดตามการเปลี่ยนแปลงและแนวโน้มในวงการเครือข่ายและความปลอดภัยทางไซเบอร์
    • เข้าร่วมชุมชนออนไลน์, ฟอรัม, และการประชุมหรือสัมมนาด้านการจัดการเครือข่าย

การพัฒนาทักษะเพิ่มเติม

  1. เรียนรู้เครื่องมือและเทคนิคใหม่ๆ (Learning New Tools and Techniques):

    • ศึกษาเครื่องมือและเทคนิคใหม่ๆ ที่ใช้ในการจัดการและตรวจสอบเครือข่าย
    • เรียนรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น การประมวลผลแบบคลาวด์, ระบบเสมือนจริง (Virtualization)
  2. การพัฒนาทักษะการเขียนโปรแกรมและการเขียนสคริปต์ (Programming and Scripting Skills):

    • การฝึกฝนทักษะการเขียนโปรแกรมและการเขียนสคริปต์เพื่อใช้ในการจัดการและบำรุงรักษาเครือข่าย
    • เรียนรู้วิธีการอัตโนมัติในการจัดการเครือข่าย
  3. การสร้างเครือข่ายในวงการ IT (Networking in the IT Community):

    • การเข้าร่วมกลุ่มและชุมชนของผู้เชี่ยวชาญด้าน IT เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์และความรู้

คำแนะนำเพิ่มเติม

  1. การเข้าร่วมกลุ่มและชุมชน IT (Joining IT Groups and Communities):

    • เข้าร่วมกลุ่มและชุมชนของผู้เชี่ยวชาญด้าน IT เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์และความรู้
  2. การทำโปรเจ็กต์ส่วนตัว (Working on Personal Projects):

    • สร้างและพัฒนาโปรเจ็กต์ส่วนตัวเพื่อฝึกฝนทักษะและสร้างพอร์ตโฟลิโอ
  3. การติดตามแนวโน้มเทคโนโลยีและการจัดการเครือข่าย (Keeping Up with Technology and Network Management Trends):

    • ติดตามและศึกษาแนวโน้มเทคโนโลยีและการจัดการเครือข่ายใหม่ๆ เพื่อให้ตนเองทันสมัยและสามารถปรับตัวได้รวดเร็ว
  4. การพัฒนาทักษะการสื่อสารและการนำเสนอ (Developing Communication and Presentation Skills):

    • พัฒนาทักษะการสื่อสารและการนำเสนอเพื่อให้สามารถอธิบายผลการทดสอบและข้อเสนอแนะได้อย่างชัดเจน
  5. การฝึกอบรมและการรับใบรับรอง (Training and Certification):

    • เข้าร่วมการฝึกอบรมและการรับใบรับรองเพิ่มเติม เช่น Cisco Certified Network Associate (CCNA), CompTIA Network+, Juniper Networks Certified Internet Associate (JNCIA) เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือและความสามารถในการแข่งขันในตลาดงาน